ฟุตบอลโลกครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ดีสุดที่มีการจัดการแข่งขันมา เนื่องด้วยทั้งผู้ชมที่มากขึ้น สนามความพร้อมต่างๆ รวมทั้งลิขสิทธิ์ทีวีที่ถ่ายทอดสดไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก ครั้งนี้ยังเป็นครั้งที่สองของฝรั่งเศสที่ถูกคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกด้วย
การแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดให้มีทีมเข้าร่วมในรอบสุดท้ายเป็น 32 ทีมจากเดิม 24 ทีมประกอบด้วย ทีมจากยุโรป 15 ทีม ได้แก่ ออสเตรีย,เบลเยี่ยม,บัลแกเรีย,โครเอเชีย,เดนมาร์ก,อังกฤษ,ฝรั่งเศส(เจ้าภาพ),เยอรมัน,อิตาลี,เนเธอร์แลนด์,นอร์เวย์,โรมาเนีย,สก็อตแลนด์,สเปน และยูโกสลาเวีย ทีมจากอเมริกาใต้ 5 ทีม ได้แก่ ชิลี,โคลัมเบีย,ปารากวัย,อาร์เจนติน่า และบราซิล(แชมป์เก่า) ทีมจากแอฟริกา 5 ทีม ได้แก่ แคเมอรูน,โมร็อกโค,แอฟริกาใต้,ตูนิเซีย และไนจีเรีย ทีมจากคอนคาเคฟ 3 ทีม ได้แก่ จาไมก้า,เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ทีมจากเอเชีย 4 ทีม ได้แก่ อิหร่าน,ซาอุดิอาราเบีย,เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
ไฮไลท์ที่น่าสนใจของการแข่งครั้งนี้คงหนีไม่พ้นนัดชิงชนะเลิศที่สนาม สต๊าด เด ฟรองค์ ในกรุงปารีส ฝรั่งเศสที่ในทัวร์นาเม้นท์นี้ทำผลงานได้ดีมาก พบกับอดีตแชมป์โลกสี่สมัยบราซิล เซียนบอลทั่วโลกต่างมองว่าฝรั่งเศสน่าจะเป็นของเล่นให้บราซิลเท่านั้น เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นทุกเสียงวิจารณ์ก็ต้องเงียบเป็นเป่าสาก เมื่อ ซิเนอดีน ซีดาน กองกลางพรสวรรค์สูง ยิงให้ทีมตราไก่ฝรั่งเศสออกนำห่างบราซิลไปถึง 2 ประตู ในนาทีที่ 27 และ 45 และในช่วงเวลาบสดเจ็บเอ็มมานูเอล เปอร์ตี ก็ยิงประตูปิดกล่องให้ทีตราไก่ฝรั่งเศสเอาชนะบราซิลไปอย่างท่วมท้น 3-0 ขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลกครั้งแรกได้สำเร็จ และยังเป็นแชมป์ในบ้านเกิดของตัวเองอีกด้วย
หรือผู้เล่นที่ยิงประตูได้มากที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ เป็นของ ดาวอร์ ซุเคอร์ ศุนย์หน้าทีมชาติโครเอเชีย ที่ทำไปทั้งสิ้น 6 ประตู
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด 64 นัด จำนวนประตูที่เกิดขึ้น 171 ประตู
