ฟุตบอลโลกครั้งที่ 15 ปี 1994 จัดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
ครั้งนี้การแข่งขันถูกจัดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรก โดยสหรัฐอเมริกาได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ผ่านการเห็นชอบของฟีฟ่า การแข่งขันยังคงมี 24 ทีม เช่มเดิม แต่คราวนี้ระบบนับคะแนนในรอบแบ่งกลุ่ม ถูกคิดใหม่เป็นชนะได้ 3 คะแนน เสมอ 1 คะแนน และแพ้ไม่ได้คะแนน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำการคิดแบบชนะได้ 3 คะแนนมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก ซึ่งฟีฟ่าให้เหตุผลว่าอยากให้ทุกทีมมาเน้นการทำประตูกันให้มากขึ้น
ทีมที่เข้าร่วม
เป็นทีมจากยุโรป 13 ทีม ได้แก่ บัลแกเรีย,เบลเยี่ยม,เยอรมัน(แชมป์เก่า),กรีซ,อิตาลี,เนเธอร์แลนด์,นอร์เวย์,ไอร์แลนด์,โรมาเนีย,รัสเซีย,สเปน,สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ ทีมจากอเมริกาใต้ 4 ทีม ได้แก่ อาร์เจนติน่า,บราซิล,โคลัมเบีย และโบลิเวีย ทีมจากแอฟริกาใต้ 3 ทีม ได้แก่แคเมอรูน,ไนจีเรีย และโมร็อกโค ทีมจากเอเชีย 2 ทีม คือ เกาหลีใต้ และซาอุดิอาราเบีย สุดท้ายทีมจากคอนคาเคฟ 2 ทีม คือ เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา(เจ้าภาพ)
ในการแข่งขันครั้งนี้ไม่มีทีมขวัญใจมหาชนอย่างอังกฤษ และฝรั่งเศสอดีตแชมป์โลกคนละสมัยที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ส่วนทีมที่ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งก็ยังคงเป็นบราซิลที่มีคู่หูพระกาฬ อย่างเบเบโต้ และโรมาริโอ หลังจบการแข่งขันในรอบแรกมีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นเมื่อ อันเดรส เอสโคบา นักเตะทีมชาติโคลัมเบีย ถูกลอบยิงเสียชิวิตในขณะเดินทางกลับบ้านในโคลัมเบีย คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่เค้าเป็นคนยิงเข้าประตูตัวเองในรอบแรก ส่งผลให้ผู้มีอิทธิพลในโคลัมเบียไม่พอใจ จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และเหตุการณ์ที่น่าสนใจอีกเหตุการณ์หนึ่งคงหนีไม่พ้นการตรวจพบสารกระตุ้นของ ‘เสือเตี้ย’ ดีเอโก มาราโดน่า ทำให้เค้าไม่ได้ลงเล่นในรอบตัดเชือกเกมกับโรมาเนีย เป็นเหตุให้โรมาเนียพลิกล็อก ชนะไปได้
มาถึงนัดชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันของบราซิล กับ อิตาลี อดีตแชมป์โลกสามสมัยเท่ากัน อิตาลีที่ต้องเรียกว่าเข้ารอบมาได้อย่างกระท่อนกระแท่น ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘เทพบุตรเปียทองคำ’ โรแบร์โต้ บักโจ้ ซึ่งยิงประตูสำคัญๆ ให้อิตาลีผ่านเข้ารอบมาได้หลายเกม จบเกมเก้าสิบนาที และต่อเวลาพิเศษยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ จนต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และนี่เป็นครั้งแรกของการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ต้องมีการดวลจุดโทษตัดสินในนัดชิงชนะเลิศ และโรแบร์โต้ บักโจ้ จากเทพบุตรที่ทำดีมาตลอดทั้งรายการ ก็กลายร่างเป็นซาตานทันทีเมื่อยิงจุดโทษไม่เข้า ส่งบราซิลเป็นแชมป์โลกสมัยที่สี่ และเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์โลกสี่สมัย
ดาวซัลโว
หรือผู้เล่นที่ยิงประตูได้มากที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ เป็นของฮริสโต้ สตอยคอฟ ที่พาม้ามืดบัลแกเรีย มาถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ โดยยิงไป 6 ประตู เท่ากับ โอเล็ก ซาเล็นโก้ ของรัสเซีย
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด 52 นัด จำนวนประตูที่เกิดขึ้น 141 ประตู