ฟุตบอลโลกครั้งที่ 13 ปี 1986 จัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก
นับเป็นครั้งที่สองของเม็กซิโกที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก จริงๆ แล้วฟุตบอลโลกครั้งนี้ต้องถูกจัดขึ้นที่ประเทศโคลัมเบีย แต่ด้วยกระที่โคลัมเบียประกาศถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพไปในปี 1982 ด้วยเหตุผลทางด้านการเงิน จึงทำให้เม็กซิโกได้รับสิทธิ์นั้นแทน การแข่งขันในครั้งนี้ยังยึดรูปแบบเดิมคือมี 24 ทีม
ทีมที่เข้าร่วม
ในการแข่งขัน ในครั้งนี้ยังยึดรูปแบบเดิมคือมี 24 ทีม โดยเป็นทีมจากยุโรป 14 ทีม ได้แก่ เบลเยี่ยม,บัลแกเรีย,เดนมาร์ก,อังกฤษ,ฝรั่งเศส,ฮังการี,อิตาลี(แชมป์เก่า),ไอร์แลนด์เหนือ,โปแลนด์,โปรตุเกส,สก็อตแลนด์,สหภาพโซเวียต,สเปน และเยอรมันตะวันตก ทีมจากอเมริกาใต้ 4 ทีม ได้แก่ บราซิล,อาร์เจนติน่า,ปารากวัย และอุรุกวัย ทีมจากคอนคาเคฟ 2 ทีม ได้แก่ แคนาดา และเม็กซิโก(เจ้าภาพ) ทีมจากแอฟริกา 2 ทีม ได้แก่ แอลจีเรีย และโรร็อกโค ทีมจากเอเชีย 2 ทีม ได้แก่ อิรัก และเกาหลีใต้
เนื่องด้วยการแข่งครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่เม็กซิโก อันเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศอันร้อนจัด ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าทีมอย่าง บราซิล และอาร์เจนติน่า สองทีมดังจากอเมริกาใต้น่าจะเป็นฝ่ายได้เปรีบบทีมจากทวีปยุโรป เนื่องด้วยเพราะคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมมากกว่า และอากาศมากกว่า ทำให้สองทีมนี้กลายเป็นเต็งแชมป์ไปโดปริยาย หลังจากพิธีเปิดที่สนามอัซเตกา สเตเดี้ยม บราซิลแชมป์โลกสามสมัยก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเอาชนะได้ทั้งสเปน,แอลจีเรีย, และไอร์แลนด์เหนือ ผ่านเข้ารอบโดยการเป็นแชมป์กลุ่มได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และในรอบตัดเชือกพวกเขาก็ยังไล่ถลุงโปแลนด์ไปอย่างสบายเกือก 4-0 แต่ต้องมาตกรอบในรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยฝีมือของฝรั่งเศสภายใต้การนำทีมของ ‘นโปเลียนลูกหนัง’ มิเชล พลาตินี่ นั่งเอง และอีกเหตุการณ์ที่ถูกหยิบยกมาพูดกันจนถึงทุกวันนี้คงไม่พ้นเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ อาร์เจนติน่า พบกับอังกฤษ ทีมฟ้าขาวที่นำทีมโดย ‘เสือเตี้ย’ ดีเอโก้ มาราโดน่า ยิงสองประตูให้อาร์เจนติน่าขึ้นนำอังกฤษ โดยประตูแรก มาราโดน่าใช้มือปัดบอลเข้าประตูไปแต่กรรมการไม่เห็น มาราโดน่า แฟนบอลต่างประเทศจึงได้เรียก ประตูนี้ว่า ‘Hand Of God’ หรือหัตถ์พระเจ้านั่นเอง อีกประตูหนึ่งเป็นลูกยิงที่เรียกว่าสวยที่สุดในฟุตบอลโลกลูกหนึ่ง คือมาราโดน่าเลี้ยงบอลกว่าครึ่งสนามหลบผู้เล่นของอังกฤษเข้าไปยิงประตูได้อย่างงดงาม ถึงนัดชิงชนะเลิศเป็นทีมฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ภายใต้การนำทัพของ ‘เสือเตี้ย’ เข้าชิงกับอินทรีเหล็กเยอรมันตะวันตกของฟรานซ์ เบคเค่นเบาเออร์ ทีมฟ้าขาวขึ้นนำก่อน 2-0 จากการยิงของ บราวน์ และวัลดาโน่ แต่เยอรมันตะวันตกไม่ยอมแพ้ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ในนาทีที่ 80 แต่สุดท้ายเป็นทีมฟ้าขาวที่ทำได้ดีกว่ายิงประตูชัยได้ในนาทีที่ 83 จากการยิงของ บูรัชชาก้า จบเกมอาร์เจนติน่าเอาชนะไปได้ 3-2 เถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่สองได้สำเร็จ และดีเอโก้ มาราโดน่า ยังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในทัวร์นาเม้นนี้อีกด้วย
ดาวซัลโว
หรือผู้เล่นที่ยิงประตูได้มากที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ ตกเป็นของ แกรี่ ลินิเกอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ด้วยประตูรวม 6 ประตู
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด 52 นัด จำนวนประตูที่เกิดขึ้น 132 ประตู