ฟุตบอลโลกครั้งที่ 11 ปี 1978 จัดขึ้นที่ประเทศอาร์เจนติน่า

กลับไปที่อเมริกาใต้อีกครั้ง สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก หรือฟีฟ่าเวิร์ลคัพ ปีนี้เป็นหน้าที่ของอาร์เจนติน่าที่ได้รับหน้าที่จากฟีฟ่า ตั้งแต่ปี 1966 นับเป็นการกลับมาจัดการแข่งขันที่อเมริกาใต้อีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน ครั้งสุดท้ายที่จัดที่ต้องย้อนไปฟุตบอลโลกปี 1962 ที่ประเทศชิลี เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองของอาร์เจติน่าจะไม่ค่อยดีนัก จนทำให้เกือบจะไม่ได้จัดฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย  แต่อาร์เจนติน่าก็เอาตัวรอดไปได้ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการแข่งครั้งหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากยุทธวิธีกลโกงที่เจ้าภาพอาร์เจนติน่างัดมาใช้นั่นเอง

ทีมที่เข้าร่วม

การแข่งขันในรอบสุดท้ายนี้ยังคงมี 16 ทีมเช่นเดิม ประกอบด้วยทีมจากยุโรป 10 ทีม ได้แก่ ออสเตรีย,ฝรั่งเศส,อิตาลี,ฮังการี,เนเธอร์แลนด์,โปแลนด์,สก็อตแลนด์,สวีเดน,สเปน และเยอรมันตะวันตก(แชมป์เก่า) ทีมจากอเมริกาใต้ 3 ทีม ได้แก่ อาร์เจนติน่า(เจ้าภาพ),บราซิล และเปรู จากคอนคาเคฟ 1 ทีม คือ เม็กซิโก จากแอฟริกา 1 ทีม คือ ตูนิเซีย และจากเอเชีย 1 ทีม คือ อิหร่าน

ความหวังหนึ่งเดียวของอาร์เจนติน่าคือเป็นแชมป์โลกครั้งแรกในบ้านตัวเองเท่านั้น ด้วยสภาพความได้เปรียบที่ได้เป็นเจ้าภาพ และขุมกำลังที่มีอยู่ นำโดย ดาเนียล พาสซาเรล่า กัปตันทีม พวกเค้าจึงถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งไปโดยปริยาย อีกทีมหนึ่งที่ฟอร์มร้อนแรงมาตลอดการแข่งรอบคัดเลือกก็คือแชมป์โลกสามสมัย บราซิล นั่นเอง อาร์เจนติน่าพวกเค้าถูกจับฉลากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ อิตาลี,ฝรั่งเศส และฮังการี ซึ่งถือว่าหนังพอตัวเลยทีเดียวแต่พวกเค้าก็ยังเอาตัวรอดผ่านเข้ารอบตามอิตาลีมาได้ด้วยอันดับที่สอง ส่วนบราซิลที่เป็นตัวเต็งอีกหนึ่งทีมนั้นพอก็สามารถผ่านเข้ารอบมาเป็นอันดับสองได้เช่นกัน แม้จะเอาชนะออสเตรียได้แค่ทีมเดียว และเสมอไปถึงสองนัดก็ตาม อีกทีมที่ต้องพูดถึงก็คือ กังหันสีส้ม เนเธอร์แลนด์ รองแชมป์เก่า ที่ผ่านเข้ารอบมาแบบกระท่อนกระแท่นเหลือเกิน ด้วยการชนะ เสมอ และแพ้อย่างละหนึ่งเกม

แต่พอมาถึงรอบที่สอง ทีมกังหันสีส้มก็ฟอร์มดีขึ้นผิดกับรอบแรก เป็นที่หนึ่งของกลุ่มเข้าไปรอชิงชนะเลิศ และเป็นการเข้าชิงครั้งที่สองติดต่อกันอีกด้วย ส่วนด้านเจ้าภาพอาร์เจนติน่านั้นก็ฟอร์มดีเช่นกัน ผ่านทั้งบราซิล,เปรู และโปแลนด์เข้าชิงชนะเลิศในบ้านตัวเองเป็นครั้งแรก  การแข่งขันในนัดชิงขนะเลิศถูกจัดขึ้นที่สนาม เอสตาดิโอ ของกรุงบรูโนสไอเรส เริ่มต้นครึ่งแรกอาร์เจนติน่าเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนจาก มาริโอ เคมเปส ในนาทีที่ 37 จบครึ่งแรกทีมฟ้าขาวยังนำอยู่ 1-0 กลับลงมาเล่นในครึ่งหลังทีมอัศวินสีส้มก็ยังเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ยังมาได้ประตูตีเสมอก่อนหมดเวลาเพียงแปดนาทีเท่านั้นจาก นันนิงก้า หมดเวลายังทำไม่สามารถหาผู้ชนะได้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป และเป็นมาริโอ เคมเปส ที่กลายร่างเป็นฮีโร่ ยิงหนึ่งประตู และจ่ายให้เพื่อนยิงอีกหนึ่งประตู ส่งทีมฟ้าขาวขึ้นเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยแรกมาครองได้ในบ้านตัวเอง

ดาวซัลโว

หรือผู้เล่นที่ยิงประตูได้มากที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ คือ ฮีโร่ของทีมฟ้าขาว มาริโอ เคมเปส กระหน่ำไปทั้งสิ้น 6 ประตู

จำนวนการแข่งขันทั้งหมด 38 นัด จำนวนประตูที่เกิดขึ้น 102 ประตู