⭐⭐⭐⭐⭐
โครเอเชีย รายชื่อ 11 ตัวผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ระบบการเล่น 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู: 23.ดานิเยล ซูบาซิช (โมนาโก), 12.ลอฟเร่ คาลินิช (เกนท์), 1.โดมินิค ลิวาโควิช (ดินาโม ซาเกร็บ)
กองหลัง: 5.เวดราน ชอร์ลูก้า (โลโคโมทิฟ มอสโก), 21.โดมากอย วิด้า (เบซิคตัส), 3.อิวาน สตรินิช (ซามพ์โดเรีย), 6.เดยัน ลอฟเรน (ลิเวอร์พูล), 2.ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ (แอตเลติโก้ มาดริด), 22.โจซิป ปิวาริช (ดินาโม เคียฟ), 13.ทิน เยดวาย (เลเวอร์คูเซ่น), 15.ดูเย่ ชาเลต้า-ชาร์ (เร้ดบูล ซัลซ์บวร์ก)
กองกลาง: 10.ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด), 7.อิวาน ราคิติช (บาร์เซโลน่า), 8.มาเตโอ โควาซิช (เรอัล มาดริด), 19.มิลาน บาเดลจ์ (ฟิออเรนติน่า), 11.มาร์เซโล โบรโซวิช (อินเตอร์ มิลาน), 14.ฟิลิป บราดาริช (ริเยก้า)
กองหน้า: 17.มาริโอ มานด์ซูคิช (ยูเวนตุส), 4.อิวาน เปริซิช (อินเตอร์ มิลาน). 16.นิโคล่า คาลินิช (เอซี มิลาน), 9.อันเดรย์ ครามาริช (ฮอฟเฟนไฮม์). 20.มาร์โก เปียช่า (ยูเวนตุส), 18.อันเต้ เรบิช (ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต)
สภาพความพร้อมล่าสุด : โครเอเชียถือเป็นม้ามืดในการแข่งขันครั้งนี้จริงๆนะครับ เพราะพวกเค้าโชว์ฟอร์มสุดยอด ชนะรวดทั้งสามเกมในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเฉพาะชัยชนะเหนือบิ๊กเนมอย่างอาร์เจนติน่าถึง 3-0 ประตู ทำให้ความมั่นใจของพวกยิ่งมาขึ้นไปอีก นัดที่แล้วเค้าพักตัวหลักหลายตัวในเกมกับไอซ์แลนด์ เกมนี้น่าจะกลับมาใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดอีกครั้งในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูเป็น ดานิเยล ซูบาซิส เซ็นเตอร์ฮาล์ฟสองคนเป็น เดยัน ลอฟเร็น ยืนคู่กับ โดมากอย วิด้า แบ็กสองข้าง อิวาน สตริชิช และซิเม่ เวอซาโก้ คู่กองกลางใช้ อิวาน ราคิติช กับอังเดร ครามาริช แนวรุกสามตัวนำโดย ลูก้า โมดริช กัปตันทีม , อิวาน เปริซิส และอันเต ราบิช โดยทิ้ง มาริโอ มานซูคิช ไว้ในแดนหน้าคอยเก็บบอล
⭐⭐⭐⭐⭐
เดนมาร์ก รายชื่อ 11 ตัวผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ระบบการเล่น 4-3-3-
รายชื่อ 11 ตัวผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ผู้รักษาประตู : 22.เฟรดริค รอนโนว์ (บรอนด์บี้), 16.โยนาส ลอสเซิล (ฮัดเดอร์สฟิลด์), 1.แคสเปอร์ ชไมเคิล (เลสเตอร์)
กองหลัง : 6.อันเดรียส คริสเตนเซ่น (เชลซี), 14.เฮนริค ดาลส์การ์ด (เบรนท์ฟอร์ด), 3.ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (กลัดบัค), 17.เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซ่น (อูดิเนเซ่) , 5.โยนาส คนุดเซ่น (อิปสวิช), 13.มัทธีอัส “ซานก้า” ยอร์เกนเซ่น (ฮัดเดอร์สฟิลด์), 4.ไซม่อน เคียร์ (เซบีญ่า)
กองกลาง : 10.คริสเตียน เอริคเซ่น (สเปอร์ส), 19.ลาสเซ่ โชน (อาหยักซ์), 18.ลูคัส เลราเกอร์ (บอร์กโดซ์), 2.ไมเคิล โครห์น-เดห์ลี่ (ลา กอรุนญ่า), 8.โธมัส เดลานี่ย์ (เบรเมน), 7.วิลเลี่ยม ควิสท์ (โคเปนเฮเก้น)
กองหน้า : 21.อันเดรียส คอร์เนลิอุส (อตาลันต้า), 12.แคสเปอร์ โดลเบิร์ก (อาแจ็กซ์) , 11.มาร์ติน เบรธเวท (บอร์กโดซ์), 9.นิโคไล ยอร์เกนเซ่น (เฟเยนูร์ด), 23.ปิโอเน่ ซิสโต้ (เซลต้า บีโก้), 15.วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ (โคเปนเฮเก้น), 20.ยุสซุฟ โพลเซ่น (ไลป์ซิก)
สภาพความพร้อมล่าสุด : เดนมาร์กในปีนี้มาแบบไม่หวือหวา แต่ผ่านเข้ารอบมาได้สำเร็จจากเกมรับที่เหนียวแน่น แม้เกมรุกจะยิงได้เพียงสองประตูเท่านั้น แต่เกมรับของพวกเค้าก็เสียไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น จากจุดโทษของไมล์ เจดินัค ในเกมที่แล้ว ยุสซุฟ โพลเซ่น ดาวยิงตัวเก่งของทีมชดใช้โทษแบนไปแล้ว นัดนี้เค้าจะได้กลับมารับใช้ทีมอีกครั้ง พวกเค้าจะมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม โดยมีแคสเปอร์ ชไมเคิล ยืนเป็นผู้รักษาประตู กลองหลังนำโดย ซิม่อน เคียร์ กัปตันทีม อันเดรส คริสเตียนเซ่น , เยนส์ สไตร์เกอร์ ลาร์เซ่น และ เฮนริค ดัลส์การ์ด กองกลางสามคนบัญชาเกมโดย คริสเตียน อีริคเซ่น โดยมี วิลเลี่ยม ควิสต์ และโทมัส เดลานี่ คอยประคอง ริมเส้นซ้ายขวายังคงเป็นนิโคไล จอร์เกนเซ่น และปิโอเน่ ซิสโต้ โดยให้ยุสซุฟ โพลเซ่น เป็นกองหน้าตัวเป้า
สถิติที่น่าสนใจ
-ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่โครเอเชียสามารถผ่านเข้ามาในรอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ ครั้งเกิดขึ้นเมื่อฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1998 ที่ฝรั่งเศส ในครั้งนั้นพวกเค้าได้อันดับที่ 3 มาครอง
-จากชัยชนะ 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่ยาวนานที่สุดสำหรับโครเอเชีย
-ประตูที่โครเอเชียทำได้ 7 ประตูนั้น 6 ประตู เป็นประตูที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง นอกจากนั้นการยิงเข้ากรอบ 6 ครั้ง พวกเค้าทำได้ถึง 5 ประตูด้วยกัน
⭐⭐⭐⭐⭐
วิเคราะห์เกมส์ (เซียน พ่อ)
ผลงาน 5 นัดล่าสุด โครเอเชีย ชนะ 4 แพ้ 1 ส่วน เดนมาร์ก ชนะ 2 เสมอ 3 ⚽ โครเอเชีย ชนะ ไนจีเรีย 2-0 ชนะ อาร์เจนติน่า 3-0 ชนะ ไอร์แลนด์ 2-1 เข้ารอบเป็นที่ 1 กลุ่ม D .. ส่วน เดนมาร์ก ชนะ เปรู 1-0 เสมอ ออสเตรเลีย 0-0 และ เสมอ ฝรั่งเศส 0-0 😜 โครเอเชียเป็นอีกทีมที่น่าจับตามองมากในฟุตบอลโลกปีนี้ ในเกมส์อุ่นเครื่องผลงานสุดแสนจะธรรมดา แต่ในบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มกลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยม!! ชนะรวด 3 นัดที่สำคัญอัดอาร์เจนติน่าเกือบเสียมวย 3-0 ชนิดรูปเกมส์ก็ไม่ได้เป็นรอง 😂 ส่วน เดนมาร์ก ผลงานไม่ค่อยดีผ่านเข้ามาได้แบบกระท่อนกระเเท่น เจียนอยู่เจียนไป 😅 เเต่! เดนมาร์กเป็นทีมที่มีมาตราฐานดีทีมนึง เคยเป็นแชมป์ยุโรปมาแล้ว..ด้วยการพิชิตเยอรมัน 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศในปี 1992 ด้วยผลงานของ 2 พีน้อง ไมเคิล และ ไบรอัน เลาดรุ๊ป และ นายประตู ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ซึ่งรายหลังมีลูกชายได้สืบทอดคือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่จะลงเฝ้าเสาในเกมส์วันนี้ด้วย..ส่วน โครเอเชีย ผลงานงานดีที่สุดคืออันดับ 3 ฟุตบอลโลก ปี 1998 ด้วยการชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 😂 เดนมาร์ก เด่นในแนวรับเท่านั้น ในแนวรุกมีการทำประตูกันน้อย .. ต่างจากโครเอเชีย นอกจากแนวรับดีแล้ว 3 นัดเสียแค่ลูกเดียว แดนกลางนี่ระดับโลกเลย เป็นส่วนผสมของ บาร์เซโลน่ากับรีล มาดริด ก็ว่าได้.!!
อัตราต่อรอง:
👍 ต่อ ทีมตราหมากรุก โครเอเชีย… เกมส์วันนี้เหนือกว่าแน่.. เดนมาร์กคงได้เเต่ตั้งรับรอสวนเท่านั้นคงไม่กล้าเปิดหน้าแลก… ดูมุมใหนโครเอเชียชุดนี้ก็ไม่แพ้เดนมาร์ก..อยู่ที่ว่าจะเจาะเเนวรับของเดนมาร์กได้รึ๊ปล่าวเท่านั้นเอง!!
⭐⭐⭐⭐⭐
วิเคราะห์เกมส์ (เซียน เอก)
ความน่าจะเป็น : : ถือเป็นคู่ที่สมน้ำสมเนื้อกันดีทีเดียวครับสำหรับคู่นี้ โครเอเชียดูจะได้ความมั่นใจจากรอบแรกมามากพอสมควร น่าจะเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกใส่เดนมาร์ก ที่น่าจะใช้การเล่นที่ถนัดของพวกเค้าคือรอจังหวะอย่างใจเย็น และการเข้าทำด้วยลูกตั้งเตะที่เป็นทีเด็ดของพวกเค้าเช่นกัน น่าจะเป็นเกมที่ค่อนข้างกดดันทีเดียวครับ น่าจะมีถึงต่อเวลา แต่ถ้าจะให้เลือกว่าใครมีเด็ดทีขาดมากว่ากันน่าจะเป็นโครเอเชีย น่าจะเบียดซิวชัยไปได้
นธง : โครเอเชียชนะ 1-0
⭐⭐⭐⭐⭐
⭐⭐⭐⭐⭐
★ ★ ★ ★ ★ ★ ★